นักกอล์ฟสาว 9 คน โชว์ฟอร์มเยี่ยม เปิดรอบแรกขึ้นนำร่วมกันที่คนละ 2 อันเดอร์พาร์ 70 จากการแข่งขัน”สิงห์-เอสเอที ไทยแอลพีจีเอ มาสเตอร์ส”นัดปิดฤดูกาล ไทยแอลพีจีเอ ทัวร์ 2025 ชิงเงินรางวัลรวม 4 ล้านบาท ณ สนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ พาร์ 72 ระยะ 6,540 หลา จ.-ขอนแก่น เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568
สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี โดยการสนับสนุนจาก สิงห์ คอร์เปอเรชั่น,กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ,การกีฬาแห่งประเทศไทย ,สิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ ร่วมกันจัด”สิงห์-เอสเอที ไทยแอลพีจีเอ มาสเตอร์ส”รายการสุดท้ายปิดฤดูกาล 2568 มีนักกอล์ฟสตรีจาก 11 ชาติ ได้แก่ ออสเตรเลีย,สหรัฐอเมริกา,เกาหลีใต้,เวียดนาม,ฟิลิปปินส์,อินเดีย,ญี่ปุ่น,อินโดนีเซีย,มาเลเซีย,ฮ่องกง และประเทศไทย ร่วมแข่งขัน 113 คน เป็นนักกอล์ฟอาชีพ 98 คน นักกอล์ฟสมัครเล่น 15 คน และเมื่อผ่านการแข่งขัน 2 วัน 36 หลุม จะตัดคะแนนผู้เล่นเข้าไปแข่งรอบสุดท้ายที่ 50 อันดับและเสมอ(ไม่รวมนักกอล์ฟสมัครเล่น) โดยผู้ชนะจะได้รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 520,000 บาท ส่วนแชมป์นักกอล์ฟสมัครเล่น จะได้รับโล่รางวัลเกียรติยศ จากนายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี
เมื่อจบการแข่งขันรอบแรก(18ก.ย.)ท่ามกลางสภาพสนามที่ชุ่มฉ่ำจากฝนที่ตกมาทั้งคืนจนถึงเช้า นักกอล์ฟสาว 9 คนทำสกอร์เข้ามาเท่ากันคนละ 2 อันเดอร์พาร์ 70 ขึ้นเป็นผู้นำร่วมกันครั้งแรกมากเป็นประวัติศาสตร์ไทยแอลพีจีเอ ทัวร์ ที่จัดแข่งขันมาเป็นปีที่ 18 โดยทั้ง 9 รายแบ่งเป็น ที่จบในช่วงเช้าได้แก่ แพรว นนทรักส์ จากลำปาง,ณัฐริกา เสนสาย จากกรุงเทพฯ และฟลอเรนซ์ ยีวอน ไบเซอร่า จากฟิลิปปินส์ และที่จบในช่วงบ่ายได้แก่ พันธ์ผกา พันธุมะบำรุง จากกรุงเทพฯ ,วินนี่ อึ๊ง จากมาเลเซีย,ปริ๊นเซส ซูเพอรัล จากฟิลิปปินส์,กุลธิดา พราหมพันธ์ จากปทุมธานี,ชลชีวา วงษรัศม์ จากเชียงใหม่ และพิสิฐขวัญ ภู่รัตนโอภา จากนครศรีธรรมราช
แพรว นนทรักส์ โปรใหม่ป้ายแดงจากลำปาง เปิดใจว่า “”สนามอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างดีเลยค่ะ อาจจะแฉะไปนิดหน่อยเพราะฝนตกเมื่อเช้านี้ แต่เกมการเล่นก็อยู่ในเกณฑ์ที่วางแผนไว้ค่ะ ต้องตีให้อยู่ในแฟร๋เวย์ และตีตามแผนที่วางไว้ค่ะ วันนี้ชิพดี ถึงจะตีไม่ออนแต่ก็ ชิพเข้าไปเก็บพาร์ได้ พอใจสกอร์มากค่ะถือว่าประสบความสำเร็จชนะสนามได้ อีกสองวันก็อยากจะตีให้ดีที่สุดไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องตีดีเลิศหรืออะไรค่ะ ฝากพี่ๆน้องๆเพื่อนๆ คุณพ่อคุณแม่เป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะคะในอีกสองวันต่อไปค่ะ”
ทางด้านฟลอเรนซ์ ยีวอน ไบเซอร่า จากเมืองดาเวา ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ที่ได้สิมธิ์เข้าร่วมการแข่งขันกับไทยแอลฯเป็นครั้งแรก กล่าวว่า ““ฉันมาแข่งครั้งแรกที่เมืองไทย สนามนี้เล่นยาก ช็อตสองขึ้นยาวมาก ส่วนกรีนก็สโลปเยอะมาก การจัดดีมาก ผู้เล่นก็เป็นมิตร คณะกรรมการก็อัธยาศัยดีประมาณนี้ อีกสองรอบก็ไม่ได้คาดหวังอะไรเพราะมันค่อนข้างยาก อยากจะอยู่ในเกมแพลนของตัวเองและทำให้ได้มากกว่า วันนี้ชอบการเล่นที่หลุม 13 มากเพราะเป็นพาร์ 3 ที่ยากแล้วทำเบอร์ดี้ได้”
ทางด้านชลชีวา วงษรัศม์ วัย18 ปีจากเชียงใหม่ มือทำเงินอันดับ 1 ไทยแอลฯในขณะนี้ เผยว่า “วันนี้ก็เล่นตามแพลนไปเรื่อยๆค่ะ มีสะดุดที่หลุม 3 เข้ารัฟแล้วสับไม่ออกสองสามทีทำสี่ออนสองพัตต์ไปสะดุดโบกี้ที่หลุมนั้น แต่หลุมอื่นก็พาตัวเองไปในจุดที่ขึ้นได้ง่ายๆค่ะ มีลงบ้างไม่ลงบ้างก็เรื่อยๆค่ะ สภาพสนามค่อนข้างโอเคค่ะ หลังจากเจอฝนก็มีความเปียกขึ้นนิดหน่อย ก็ยังอยู่ในคอนดิชั่นที่ดีมากๆค่ะ เกมแพลนคือพยายามจะคอนโทรลไดรเวอร์ให้อยู่แฟร์เวย์ให้ได้เยอะที่สุดค่ะ เพราะรัฟค่อนข้างที่จะมีปัญหาเป็นอุปสรรคนิดหนึ่งเลี่ยงได้เลี่ยงค่ะถ้าพาตัวเองขึ้นไปบนกรีนได้ก็น่าจะได้พัตต์ค่ะ”
อันดับ 10 ร่วมตามหลังผู้นำสโตรกเดียวมี่ 3 รายได้แก่ ธัญรดา ปิดดอน จากนนทบุรี ,กุสุมา มีชัยจากสระแก้ว และ เล ชุค อัน นักกอล์ฟสมัครเล่นจากเวียดนาม ที่คนละ 1 อันเดอร์พาร์ 71
สำหรับการแข่งขันรอบสอง(19ก.ย.)นักกอล์ฟจะออกสตาร์ทที่หลุม 1 และหลุม 10 รอบเช้าเริ่มเวลา 06.40 น.รอบบ่ายเริ่มเวลา 10.50 น.
ผลการแข่งขันรอบแรก(18ก.ย.)
70 แพรว นนทรักส์ ,ฟลอเรนซ์ ยีวอน ไบเซอร่า(ฟิลิปปินส์) ,ณัฐริกา เสนสาย , ปริ๊นเซส ซูเพอรัล(ฟิลิปปินส์) ,พันธ์ผกา พันธุมะบำรุง ,วินนี่ อึ๊ง(มาเลเซีย),ชลชีวา วงษรัศม์ ,กุลธิดา พราหมพันธ์ ,ฮินาตะ อิเคบะ(ญี่ปุ่น)
71 ธัญรดา ปิดดอน ,กุสุมา มีชัย ,เล ชุค อัน(สมัครเล่น-เวียดนาม)
72 มุขรินทร์ ลาดกระโทก ,ฐาณิตา เมืองคำสกุล ,วรนิษฐา จิตรชัยนานุกูล ,นวพร สุนทรียภาส ,พิสิฐขวัญ ภู่รัตนโอภา